ประโยชน์จากการดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร และตารางดื่มน้ำตามน้ำหนัก

ผู้หญิงดื่มน้ำที่กรองจากเครื่องกรองน้ำระบบ UV

Table of Content:

การดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร กลายเป็นเทรนด์สุขภาพที่หลายคนเชื่อว่าช่วยให้ผิวพรรณสดใส ทำให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งเป็นการดื่มน้ำเพื่อลดน้ำหนัก ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้ว การดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรดีจริงไหม คำตอบคือปริมาณน้ำที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักตัว กิจกรรมที่ทำ และภาวะสุขภาพ หากดื่มมากเกินไปหรือไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากกว่าที่คิด

ผู้หญิงดื่มน้ำที่กรองจากเครื่องกรองน้ำระบบ UV

การดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรดีจริงไหม ?

การดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร หมายถึง การบริโภคน้ำเปล่าหรือของเหลวที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมกันประมาณ 3,000 มิลลิลิตร หรือ 100 ออนซ์ ภายใน 1 วัน คิดปริมาณน้ำจากทั้งการดื่มน้ำโดยตรงและการได้รับผ่านอาหาร จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอสำหรับกระบวนการทำงานต่าง ๆ เช่น การควบคุมอุณหภูมิ การลำเลียงสารอาหาร การทำงานของสมอง กล้ามเนื้อ และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

ตอบคำถามพบบ่อยเกี่ยวกับเทรนด์การดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรบนโลกออนไลน์

1. ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ?

การดื่มน้ำ 3 ลิตรต่อวันช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ป้องกันอาการขาดน้ำ ลดความเสี่ยงท้องผูก บรรเทาอาการปวดหัว และช่วยควบคุมน้ำหนัก แต่ควรพิจารณาตามน้ำหนักตัวและกิจกรรมในแต่ละวัน เพราะบางคนอาจต้องการน้ำน้อยกว่าหรือมากกว่านี้

2. ใครบ้างที่ควรดื่มน้ำมากกว่า 3 ลิตร ?

คนที่ทำกิจกรรมเยอะ เช่น นักกีฬา หรือคนที่ออกกำลังกายหนัก ๆ อาจต้องการน้ำมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ คนที่อาศัยในสภาพอากาศร้อนหรือแห้งแล้งก็อาจต้องการดื่มน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสียเหงื่อเช่นกัน

3. ดื่มน้ำมากเกินไปอันตรายไหม ?

การดื่มน้ำปริมาณมากในเวลารวดเร็ว เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโซเดียมต่ำ ทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หรือในกรณีที่รุนแรงอาจมีอาการชักและเป็นอันตรายถึงชีวิต

4. อยากดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร ควรแบ่งปริมาณอย่างไร ?

แนะนำให้ดื่มน้ำครั้งละไม่มากตลอดทั้งวัน แทนการดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ ในครั้งเดียว เพื่อไม่ให้ไตทำงานหนักเกินไป และควรดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน เพื่อช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและการทำงานของลำไส้

ประโยชน์จากการดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร

  • ช่วยขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย ส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย และป้องกันอาการท้องผูก
  • ลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไตและขจัดแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ
  • บำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้าน และลดการเกิดริ้วรอย
  • รักษาสมดุลภายในร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า โดยเฉพาะหลังการออกกำลังกายหรือการทำงานที่ต้องใช้สมองมาก
  • ป้องกันอาการปวดหัวที่เกิดจากการขาดน้ำ และบรรเทาความรุนแรงของอาการโรคไมเกรน
ผลเสียจากการดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้ไตได้รับอันตราย

ผลเสียจากการดื่มน้ำเยอะเกินไป

การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาความสมดุลในร่างกาย แต่การดื่มน้ำมากเกินไปก็สามารถเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะเมื่อร่างกายไม่สามารถขับน้ำส่วนเกินออกได้ทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่ผลเสียที่ร้ายแรงได้ ดังนี้

1. เสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication)

การดื่มน้ำมากเกินไปจนเกินความสามารถของไตในการขับน้ำออก อาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “น้ำเป็นพิษ” หรือ Water Intoxication ซึ่งเกิดจากการเจือจางของโซเดียมในเลือด (Hyponatremia) ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน สับสน ชัก หมดสติ และในกรณีรุนแรงอาจเสียชีวิต

2. เป็นอันตรายต่อไต ก่อให้เกิดภาวะ Hyponatremia

เมื่อดื่มน้ำปริมาณมากในช่วงเวลาสั้น ๆ ไตอาจไม่สามารถกรองน้ำส่วนเกินได้ทันเวลา ส่งผลให้โซเดียมในเลือดถูกเจือจางจนต่ำกว่าปกติ (Hyponatremia) ทำให้เซลล์ในร่างกายบวม และอาจเป็นอันตรายต่อระบบต่าง ๆ

3. อัตราโซเดียมและโพแทสเซียมในร่างกายต่ำกว่าปกติ

การดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้ระดับของโซเดียมและโพแทสเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ เนื่องจากการขับน้ำที่มากเกินไปจะพาแร่ธาตุเหล่านี้ออกจากร่างกายไปด้วย และเมื่อระดับแร่ธาตุต่ำกว่าปกติก็อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง และระบบประสาททำงานผิดปกติ

4. อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ เช่น หัวใจ กล้ามเนื้อ

เมื่อสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายถูกรบกวน จะทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ผิดปกติ โดยเฉพาะหัวใจและกล้ามเนื้อ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเกร็ง

แจกตารางปริมาณการดื่มน้ำ น้ำหนักเท่านี้ ควรดื่มน้ำกี่ลิตร ? 

เห็นทั้งข้อดีของการดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรและผลเสียจากการดื่มน้ำเยอะเกินไปแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงตระหนักถึงความสำคัญของการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายมากขึ้น หากอยากดื่มน้ำเพียงพอ สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง คือน้ำหนักตัว ซึ่งมีสูตรคำนวณง่าย ๆ ดังนี้

 น้ำหนัก (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 ÷ 2 = ปริมาณน้ำที่ควรดื่ม (มิลลิลิตร)

หากต้องการนำปริมาณในหน่วยมิลลิลิตรมาคำนวณเป็นหน่วยลิตรเพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนดื่มน้ำ สามารถคำนวณได้โดยใช้สูตร ปริมาณเป็นมิลลิลิตร ÷ 1,000 = ปริมาณเป็นลิตร

ตารางปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมของช่วงน้ำหนักตัว 40-90 กิโลกรัม

น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสม (ลิตร)
401.3
451.5
501.6
551.8
602.0
652.1
702.3
752.5
802.6
852.8
903.0

นอกเหนือจากการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และสอดคล้องกับน้ำหนักตัวแล้ว วิธีการเลือกเครื่องกรองน้ำเพื่อให้ได้ดื่มน้ำที่สะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เลือกใช้เครื่องกรองน้ำ Wells tt UV+ เครื่องกรองน้ำระบบ UV ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคในน้ำดื่มด้วยระบบกรองน้ำ 9 ขั้นตอน กรองน้ำสะอาดถึงระดับนาโนเทคโนโลยี กำจัดสิ่งปนเปื้อน โลหะหนัก และจุลินทรีย์ได้มากถึง 88 ชนิด พร้อมฟังก์ชันทำน้ำร้อนและน้ำเย็นที่ผ่านการจดสิทธิบัตร มอบประสบการณ์การดื่มน้ำที่สะอาด สะดวก และสบายมากกว่าที่เคยให้คุณและทุกคนในครอบครัว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง: