3 ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งเครื่องกรองน้ำ เพิ่มความสะดวกให้ชีวิต

Table of Content:
- 3 ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งเครื่องกรองน้ำ
- 1. รู้จักประเภทของเครื่องกรองน้ำ
- เครื่องกรองน้ำ UV (Ultraviolet)
- เครื่องกรองน้ำ RO (Reverse Osmosis)
- เครื่องกรองน้ำ UF (Ultrafiltration)
- เครื่องกรองน้ำแบบ Sediment
- 2. เลือกพื้นที่ติดตั้งเครื่องกรองน้ำให้เหมาะสม
- ใกล้กับแหล่งน้ำประปาและจุดจ่ายน้ำภายในบ้าน
- พื้นที่เรียบและมั่นคง ทนต่อน้ำและความชื้น
- มีอากาศถ่ายเทสะดวก ป้องกันความชื้นสะสมและการเกิดเชื้อรา
- 3. การบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำอย่างถูกวิธี
- เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด ทุก 3-6 เดือน
- ถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกมาล้างทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
- เปลืองแรงน้อยลง แค่เลือกติดตั้งเครื่องกรองน้ำระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ (Self-cleaning System)
- 1. รู้จักประเภทของเครื่องกรองน้ำ
น้ำสะอาดคือสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำดื่ม น้ำล้างหน้า หรือน้ำที่เราใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นน้ำสะอาดจริง ๆ ? เพราะบางที น้ำที่เราดื่มหรือใช้อยู่ทุกวันอาจมีสิ่งปนเปื้อน เช่น ตะกอน ฝุ่น ฯลฯ ที่มองไม่เห็นอยู่ก็ได้
เครื่องกรองน้ำ จึงกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่ทุกครัวเรือนควรมีติดบ้านไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ใช้น้ำสะอาดและเหมาะสมกับการดำรงชีวิตจริง ๆ โดยบทความนี้จะมาบอก 3 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนเลือกซื้อสินค้าจากร้านจำหน่ายและติดตั้งเครื่องกรองน้ำ ให้ได้ของคุณภาพและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด !
3 ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งเครื่องกรองน้ำ
1. รู้จักประเภทของเครื่องกรองน้ำ
เครื่องกรองน้ำ UV (Ultraviolet)
เครื่องกรองน้ำ UV ใช้แสงอัลตราไวโอเลตในการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสในน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำลายดีเอ็นเอของจุลินทรีย์ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้น้ำที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภคแน่นอน จุดเด่นของระบบนี้ คือ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน และไม่ใช้สารเคมีในกระบวนการทำความสะอาดน้ำ ทำให้สามารถคงคุณสมบัติของน้ำ อย่างรสชาติและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเอาไว้ได้ ที่สำคัญ บำรุงรักษาง่ายมาก เพราะมีระบบการทำความสะอาดหรือ “Sterilization Hygiene System” ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญของเครื่องกรองน้ำยุคปัจจุบัน ที่ช่วยรักษาความสะอาดตัวเครื่องและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ในทุกซอกทุกมุม
เครื่องกรองน้ำ RO (Reverse Osmosis)
เครื่องกรองน้ำ RO ใช้หลักการออสโมซิสแบบผันกลับ โดยใช้แรงดันสูงเพื่อดันน้ำผ่านเยื่อกรองที่มีรูพรุนขนาดเล็กมาก สามารถกำจัดสารปนเปื้อนได้หลากหลาย รวมถึงแบคทีเรีย ไวรัส และสารเคมีต่าง ๆ ทำให้ได้น้ำที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับการบริโภค อย่างไรก็ตาม ระบบนี้อาจสูญเสียน้ำบางส่วนในกระบวนการกรอง และใช้พลังงานมากกว่าการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ UV
เครื่องกรองน้ำ UF (Ultrafiltration)
เครื่องกรองน้ำ UF จะคล้าย ๆ กับ RO คือ ใช้เยื่อกรองที่มีรูพรุนขนาดเล็กมากในการกรองสารแขวนลอย แบคทีเรีย และไวรัสบางชนิด โดยระบบนี้จะสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ดีกว่าการกรองแบบธรรมดา แต่จะไม่สามารถกำจัดสารละลายหรือไอออนได้เหมือน RO ทว่าในขณะเดียวกันก็ใช้พลังงานน้อยกว่าและสูญเสียน้ำน้อยกว่าระบบ RO
เครื่องกรองน้ำแบบ Sediment
เครื่องกรองน้ำแบบ Sediment เป็นระบบกรองพื้นฐานที่ใช้ไส้กรองเพื่อดักจับตะกอน ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้ในน้ำ มักใช้เป็นขั้นตอนแรกในระบบกรองน้ำหลายขั้นตอน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกขนาดใหญ่เข้าไปอุดตันไส้กรองในขั้นตอนต่อไป
2. เลือกพื้นที่ติดตั้งเครื่องกรองน้ำให้เหมาะสม
ใกล้กับแหล่งน้ำประปาและจุดจ่ายน้ำภายในบ้าน
ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำใกล้กับท่อน้ำประปาหลักหรือมิเตอร์น้ำ เพื่อให้สามารถกรองน้ำได้ทั้งหมดก่อนเข้าสู่ระบบท่อภายในบ้าน รวมถึงเลือกตำแหน่งที่สะดวกต่อการเดินท่อไปยังจุดจ่ายน้ำต่าง ๆ เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและประหยัดพื้นที่
พื้นที่เรียบและมั่นคง ทนต่อน้ำและความชื้น
เลือกพื้นผิวที่เรียบ แข็งแรง และได้ระดับ เพื่อรองรับน้ำหนักของเครื่องกรองน้ำและป้องกันการสั่นสะเทือน ที่สำคัญ ควรเป็นพื้นที่ทนต่อน้ำและความชื้นด้วย เช่น พื้นกระเบื้อง หรือคอนกรีตเคลือบกันน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายในกรณีที่เกิดการรั่วซึม
มีอากาศถ่ายเทสะดวก ป้องกันความชื้นสะสมและการเกิดเชื้อรา
หลีกเลี่ยงการติดตั้งเครื่องกรองน้ำในพื้นที่ปิดทึบหรือมีความชื้นสูง เช่น ใต้บันได หรือมุมอับในห้องใต้ดิน และให้เลือกพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดีแทน เพื่อลดการสะสมของความชื้นและป้องกันการเกิดเชื้อรา

3. การบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำอย่างถูกวิธี
เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด ทุก 3-6 เดือน
หมั่นสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง เช่น น้ำไหลช้าลง มีกลิ่นหรือรสชาติผิดปกติ ทั้งนี้ ไส้กรองแต่ละประเภทอาจมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือการใช้งานของเครื่องกรองน้ำเพื่อดูระยะเวลาที่แนะนำในการเปลี่ยนไส้กรอง
ถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกมาล้างทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ถอดฝาครอบและชิ้นส่วนที่สามารถถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ส่วนภายนอกตัวเครื่องสามารถเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ได้เลย แต่อย่าลืมปิดวาล์วน้ำและถอดปลั๊กไฟก่อนทำความสะอาดทุกครั้งด้วย
เปลืองแรงน้อยลง แค่เลือกติดตั้งเครื่องกรองน้ำระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ (Self-cleaning System)
เครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่หลายรุ่น เช่น เครื่องกรองน้ำระบบ UV มักมาพร้อมกับระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ ที่ทำงานโดยการไหลย้อนกลับของน้ำเป็นระยะ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมในไส้กรอง ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพการกรองในระยะยาว ไม่ต้องคอยถอดมาทำความสะอาดบ่อย ๆ
เมื่อได้รู้ข้อสำคัญเหล่านี้แล้ว ก็จะช่วยให้คุณสามารถติดตั้งเครื่องกรองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะอาด และปลอดภัยแน่นอน แต่หากอยากเพิ่มความมั่นใจว่าจะได้เครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพ อย่าลืมเลือกเครื่องกรองน้ำระบบ UV+ จาก Wells ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องกรองน้ำจากเกาหลีใต้ พร้อมนวัตกรรมการกรองน้ำที่สะอาดยิ่งขึ้นด้วยระบบการกรองแบบ 9 ชั้น ที่สามารถกรองสิ่งปนเปื้อน โลหะหนัก และจุลินทรีย์ได้มากถึง 88 ชนิด ฆ่าเชื้อได้สูงถึง 99.9% ด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ระบบ Direct-dispenser ที่ได้มาตรฐานระดับสากล
เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ไปจนถึงการซ่อมบำรุงแบบครบวงจร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- LINE OA : @wellsthailand หรือ https://bit.ly/36pYHXp
- เบอร์โทรศัพท์ : 082-826-4999
- อีเมล : info@wellsthailand.com
ข้อมูลอ้างอิง :
- Home Water Filter Systems: Everything You Need to Know. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567. จาก https://www.homewater.com/blog/home-water-filter-systems-everything-you-need-to-know