รู้ทัน 7 แนวทางการป้องกันฝุ่น PM 2.5 เซฟตัวเองจากมลพิษ

ผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัย N95 เพื่อการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ระหว่างไปทำงาน

Table of Content:

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพวกเราทุกคนในระยะยาว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคปอดอักเสบ โรคหัวใจ หรือภูมิแพ้ ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถปกป้องสุขภาพร่างกายของตัวเองได้อย่างดีที่สุด มาเรียนรู้แนวทางการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ไปพร้อมกันเลย !

ผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัย N95 เพื่อการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ระหว่างไปทำงาน

7 วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 ลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้าย

1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูง

ในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 คุณสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศของแต่ละพื้นที่ได้จากแอปพลิเคชันที่รายงานค่าคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เช่น Air4Thai หรือ IQAir ซึ่งสามารถแสดงค่า AQI (Air Quality Index) ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และเมื่อตรวจพบว่าพื้นที่ใดมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน (AQI > 100) ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่นั้นหากไม่จำเป็น โดยเฉพาะบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น พื้นที่ก่อสร้าง หรือพื้นที่ที่มีการเผาในที่โล่ง 

2. สวมหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพ เช่น หน้ากาก N95 หรือ KN95

ตั้งแต่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ร้ายแรงขึ้นทุกวัน หน้ากากอนามัยธรรมดาก็ไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป เนื่องจากอนุภาคฝุ่นมีขนาดเล็กกว่ารูพรุนของหน้ากาก โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายรายแนะนำให้ใช้หน้ากากที่มีมาตรฐาน N95, KN95 หรือ KF94 ซึ่งสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้มากกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป ทั้งนี้ ควรเปลี่ยนหน้ากากใหม่เมื่อใช้งานนานเกินไปหรือเมื่อหน้ากากเปียกชื้น สกปรก หรือเสียรูปทรง

3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายในที่โล่ง

ในช่วงที่มีวิกฤตฝุ่น PM 2.5 การออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะการวิ่งหรือปั่นจักรยาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ เนื่องจากร่างกายมีการหายใจเข้า-ออกแรงและลึกกว่าปกติ ทำให้สูดอนุภาคฝุ่นเข้าสู่ปอดในปริมาณมาก ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาแนวทางการป้องกันฝุ่น PM 2.5 แนะนำให้ปรับรูปแบบการออกกำลังกายมาเป็นกิจกรรมในร่มแทน เช่น การเต้นแอโรบิค โยคะ หรือการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายในฟิตเนสที่มีระบบฟอกอากาศคุณภาพสูง

4. รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ฝุ่น PM 2.5 ก่อให้เกิดความเครียดออกซิเดทีฟ (Oxidative Stress) และการอักเสบในร่างกาย ดังนั้น อีกหนึ่งวิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 จึงเป็นการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอย่างส้ม กีวี พริกหวาน บรอกโคลี อาหารที่มีวิตามินอีสูงอย่างถั่ว เมล็ดทานตะวัน น้ำมันมะกอก อะโวคาโด หรืออาหารที่มีโอเมก้า-3 อย่างปลาแซลมอน ปลาทูนา เมล็ดเจีย วอลนัต เป็นต้น

นอกจากนี้ การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากพอ (อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว) ก็มีความสำคัญ เพราะจะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเข้มข้นของสารพิษที่สะสมในกระแสเลือดอีกด้วย

หนึ่งในวิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 คือ การทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ

5. ทำความสะอาดบ้านเพื่อลดการสะสมของฝุ่น

ฝุ่น PM 2.5 มักสะสมตามพื้นผิวต่าง ๆ โดยเฉพาะพรม ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์บุนวม สำหรับการป้องกันฝุ่น PM 2.5 แนะนำให้ทำความสะอาดบ้านโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้ดี และควรเช็ดพื้นผิวต่าง ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ซึ่งจะช่วยดักจับฝุ่นได้ดีกว่าการปัดหรือกวาด ซึ่งอาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศได้

นอกจากนี้ ควรซักล้างผ้าม่าน ปลอกหมอน และผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นหนาแน่น เพื่อกำจัดฝุ่นที่สะสมอยู่ในเส้นใยผ้า รวมทั้งควรเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศตามกำหนดเวลา เพื่อให้ระบบกรองอากาศสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. ปิดประตู-หน้าต่าง ลดการรับฝุ่นจากภายนอก

ในช่วงที่มีวิกฤตฝุ่น PM 2.5 การปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิดเป็นหนึ่งในแนวทางการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่ทุกคนควรทำ แม้จะไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% แต่ก็ช่วยลดปริมาณฝุ่นที่เข้ามาได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ควรเปิดบ้างเป็นระยะสั้น ๆ ประมาณ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อระบายอากาศ โดยควรเลือกช่วงเวลาที่ค่าฝุ่นต่ำที่สุดในรอบวัน ซึ่งมักเป็นช่วงเช้าตรู่หรือหลังฝนตกใหม่ ๆ

7. ใช้เครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน

เครื่องฟอกอากาศถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยควรวางเครื่องฟอกอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าและออก และควรเปิดใช้งานตลอดเวลาในช่วงที่มีวิกฤตฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะในห้องนอนและพื้นที่ที่ใช้เวลาอยู่นานที่สุด ที่สำคัญ อย่าลืมทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นกรองตามกำหนดเวลา เพื่อช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

แนะนำเครื่องฟอกอากาศ Wells Air Purifier ตัวช่วยในการป้องกันฝุ่น PM 2.5

Wells Interior ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่

เครื่องฟอกอากาศ Wells Interior เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องนอน ห้องเรียน หรือห้องทำงาน ด้วยขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลัง สามารถกรองละอองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 99.997% ผ่านไส้กรอง H14 Zero Clear HEPA Filter อีกทั้งยังช่วยกำจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนขณะทำงานเพื่อความเงียบสงบในการใช้งาน ตัวเครื่องออกแบบให้ติดตั้งได้ทั้งบนพื้นและติดผนัง ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอย

Wells Tornado ฟอกอากาศแบบรวดเร็ว ทั่วถึงทุกมุมห้อง

เครื่องฟอกอากาศ Wells Tornado เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบมาเพื่อการกรองอากาศอย่างทรงพลัง โดยสามารถดักจับไรฝุ่นอนุภาคเล็กได้ถึง 99.999% รวมถึงช่วยกำจัดไวรัส แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบทอร์นาโดที่สามารถดูดอากาศสกปรกในปริมาณมากพร้อมกันได้ และเทคโนโลยีการเอียง 17 องศา ที่ช่วยให้การฟอกอากาศเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง มาพร้อมโหมดการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดอัจฉริยะ โหมดทำงานเร็ว หรือโหมดทำงานเงียบ

สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับมลพิษทางอากาศ เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 จาก Wells คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยเทคโนโลยีการกรองขั้นสูง ดีไซน์ทันสมัย และการรับรองคุณภาพระดับสากล Wells มุ่งมั่นพัฒนาเครื่องใช้สุขภาพที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมการออกแบบที่เงียบ ประหยัดพลังงาน และได้รับรางวัลด้านการออกแบบจากสถาบันชั้นนำของโลก เลือกชมและสั่งซื้อสินค้าได้แล้ววันนี้ทางเว็บไซต์ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลตั้งแต่การติดตั้ง ทดสอบการใช้งาน ไปจนถึงการซ่อมบำรุงแบบครบวงจร เพราะความพึงพอใจของคุณคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง