วิธีกำจัดไรฝุ่นบนที่นอน และเฟอร์นิเจอร์ผ้าแบบได้ผลจริง
ทั้งฝุ่นละอองธรรมดาและฝุ่น PM 2.5 ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากพอแล้ว แต่ภายในอณูฝุ่นที่เล็กจิ๋วนี้ ยังมีวายร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่าง ‘ไรฝุ่น’ แฝงตัวอยู่ด้วย ซึ่งหากเมื่อใดก็ตามที่ไรฝุ่นเหล่านี้ได้เข้าไปฝังตัวอยู่ในเครื่องนอน เครื่องผ้า ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ที่มีองค์ประกอบของเนื้อผ้า ไม่ช้านานก็อาจสร้างปัญหาสุขภาพตามมาได้
รู้แบบนี้แล้ว มารู้จักกับภัยเงียบตัวจิ๋วอย่างไรฝุ่นให้มากขึ้น พร้อมเข้าใจวิธีกำจัดไรฝุ่นบนที่นอน เตียง และเฟอร์นิเจอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้มากขึ้นในบทความนี้กัน!
รู้จัก ‘ไรฝุ่น’ กันก่อน
ก่อนจะไปกำจัดไรฝุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ตามเตียง ที่นอน และเฟอร์นิเจอร์รอบบ้าน ลองมาทำความรู้จักกับวายร้ายตัวจิ๋ว เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมการอยู่อาศัยของไรฝุ่นเหล่านี้ให้มากขึ้น
โดย ‘ไรฝุ่น’ หรือ Dust Mite เป็นแมลงเล็กจิ๋วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยไรฝุ่นที่พบเห็นได้ทั่วไปจะมีขนาดเล็กเพียง 0.1 – 0.3 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่แล้ว ไรฝุ่นจะเป็นแมลงที่คอยกินเศษรังแค ขี้ไคลที่สะสมตามร่างกาย ตลอดจนผิวหนังของมนุษย์ที่ผลัดออกมา
โดยทั่วไปแล้ว ไรฝุ่นจะชอบเกาะตัวอยู่ตามใยผ้า อีกทั้งยังเติบโตได้ดีในอากาศชื้น หรือ ภายในบริเวณที่มีอุณหภูมิเย็นราว 25 องศาเซลเซียส จึงทำให้มักพบเห็นไรฝุ่นได้บ่อยตามที่นอน เตียง โซฟา ผ้าม่าน ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวผ้าอย่างตุ๊กตา หรือ พรม แถมบางครั้งยังอาจพบเจอไรฝุ่นได้ในเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่เป็นเวลานานและมีการเก็บไว้ในที่ชื้น
‘ไรฝุ่น’ อันตรายจริงไหม?
อันตรายของ ‘ไรฝุ่น’ส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากตัวของไรฝุ่นโดยตรง แต่จะเกิดขึ้นจากของเสียที่มาจากไรฝุ่น หรือ ซากไรฝุ่นที่ตายไปแล้ว ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเมือกเหนียวที่สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ อย่างไรก็ดี สำหรับบางคนแล้ว การสัมผัสโดนของเสีย หรือ ซากไรฝุ่น อาจเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการร้ายแรงอย่างหอบหืด อาการแน่นหน้าอก หรือ หายใจไม่ออกขณะนอนหลับได้ ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาก็อาจทำให้มีปัญหาการนอนหลับ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายในอนาคตได้
ในปัจจุบันนี้ ไรฝุ่นที่เป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้จะประกอบไปด้วย 2 สายพันธุ์ คือ Dermatophagoides pteronyssinus (DP) และ Dermatophagoides farinae (DF) มักพบเห็นได้บริเวณเตียง ที่นอน และของใช้ต่าง ๆ ภายในห้องนอน ว่ากันว่าลำพังเพียงที่นอน 1 หลังจะสามารถมีไรฝุ่นอาศัยอยู่ได้มากถึง 1 แสนจนถึง 10 ล้านตัวเลยทีเดียว
วิธีสังเกตอาการแพ้ไรฝุ่น
แม้จะมีขนาดเล็กจิ๋ว แต่ ‘ไรฝุ่น’ กลับเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้หลายคนต้องทุกข์ทรมานจากโรคภูมิแพ้ในระยะยาว สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าตนเองจะแพ้ไรฝุ่นหรือไม่ ลองมาสังเกตอาการแพ้ไรฝุ่นกันสักนิดก่อนไปกำจัดไรฝุ่นบนเตียงและเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวผ้ารอบบ้านกัน โดยอาการส่วนใหญ่ที่พบได้จะมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
- มีอาการไอ และ จามมากกว่าผิดปกติ
- รู้สึกเจ็บและระคายคอ ซึ่งบางครั้งอาจมีเสมหะร่วมด้วย
- รู้สึกคัดและคันจมูก มีน้ำมูกไหล หรือบางครั้งอาจรู้สึกแน่นจมูกจนหายใจไม่ออก
- รู้สึกระคายเคืองที่บริเวณดวงตา ผิวหนังรอบดวงตาบวมช้ำ น้ำตาไหล และมีรอยแดงเกิดขึ้น
- มีอาการหอบหืดกำเริบ หายใจมีเสียงวี้ด รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจได้ลำบาก
หากเข้าใกล้ที่นอน เตียง ห้องนอน หรือเข้าไปสัมผัสกับเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวผ้าแล้วเกิดอาการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อไหร่ โอกาสที่เราจะแพ้ไรฝุ่นก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น และหากรู้สึกว่าหายใจไม่ออก มีอาการหอบหืด หรือ รู้สึกแน่นหน้าอกเมื่อไหร่ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป แต่สำหรับใครที่มีอาการไม่หนัก แต่สงสัยว่าจะแพ้ไรฝุ่น สามารถเข้ารับการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Prick Test) หรือการเจาะเลือดเพื่อตรวจภูมิจำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้ก็ได้เช่นกัน
กำจัดไรฝุ่นบนเตียง ที่นอน และเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวผ้าอย่างไร?
จะเห็นได้ว่า ไรฝุ่นถือเป็นหนึ่งในศัตรูที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากไรฝุ่น ทุกคนสามารถกำจัดไรฝุ่นบนเตียงและเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวผ้าทุกชิ้นได้ง่าย ๆ ดังนี้
- หมั่นทำความสะอาดห้องนอน ที่นอน เครื่องนอน และเฟอร์นิเจอร์ผ้าทุกชิ้นอย่างสม่ำเสมอ เช่น นำผ้าปูที่นอนและแผ่นรองนอนไปซักและตากแดดทุก 1 – 3 สัปดาห์ พร้อมนำเครื่องนอนที่สามารถโดนแดดได้ไปผึ่งแดด
- ทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นแทนการใช้ไม้กวาด เพราะการกวาดจะเป็นการทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย และอาจทำให้ไรฝุ่นกระเด็นโดนผิวหนังและกระตุ้นให้เกิดการแพ้มากขึ้น ที่สำคัญ ห้ามลืมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือด้วย
- ใช้ที่นอนและเครื่องนอนที่ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้มาตรฐานว่าสามารถป้องกันไรฝุ่นได้ โดยที่นอนและเครื่องนอนดังกล่าวจะมีการเคลือบสารพิเศษไว้ที่เส้นใยผ้า ทำให้ไรฝุ่นไม่สามารถอยู่อาศัย และ ฟักไข่ได้
- เปิดเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนและทุกบริเวณทั่วบ้าน เพื่อเป็นการกรองอากาศจากฝุ่นที่อาจมีไรฝุ่นอาศัยอยู่ ทำให้ช่วยลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี เมื่อมีเครื่องฟอกอากาศแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดรอบเครื่องและเช็กไส้กรองเป็นประจำด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นเข้าไปสะสมตัวอยู่ในเครื่องฟอกอากาศอีกที
แม้จะมีขนาดตัวที่เล็กจิ๋ว แต่ไรฝุ่นกลับสร้างอันตรายต่อสุขภาพได้อย่างมหาศาล รู้วิธีการกำจัดไรฝุ่นบนที่นอนและเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวผ้าในบ้านแล้ว อย่าลืมมองหาเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนมาใช้งานเพื่อลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจากฝุ่น เชื้อโรค และมลภาวะรอบตัวที่ตาเปล่ามองไม่เห็นด้วย
Wells มาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนที่สามารถนำไปใช้ได้กับบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้านด้วยนวัตกรรมจากประเทศเกาหลีใต้ กรองอนุภาคของฝุ่นได้เล็กมากถึง 99.997% – 99.999% ทั้งยังรองรับการกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศที่ทรงพลังและรวดเร็ว พร้อมช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเงียบ ตอบโจทย์พื้นที่อยู่อาศัยทุกสไตล์ ดีไซน์ทันสมัย ได้รับรางวัลด้านการออกแบบ IDEA Design Award สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ สั่งซื้อได้ที่เบอร์ 082-826-4999
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่
LINE OA: @wellsthailand หรือ https://bit.ly/36pYHXp
อีเมล: info@wellsthailand.com
บทความล่าสุด
- 3 วิธีแก้ปัญหาดื่มน้ำน้อย ทำอย่างไรให้ดื่มน้ำเพียงพอต่อวัน ?
- เครื่องกรองน้ำดื่ม vs เครื่องกรองน้ำใช้: การใช้งานที่แตกต่าง
- เครื่องกรองน้ำต้องเสียบปลั๊กตลอดไหม มีตัวเลือกไหนอีกบ้าง ?
- แจก How To เลือกเครื่องฟอกอากาศในครัวให้ตอบโจทย์การใช้งาน
- รู้จัก 10 ระบบเครื่องฟอกอากาศ เพิ่มอากาศบริสุทธิ์ในบ้าน
- ประโยชน์ของรังสี UV ในการฆ่าเชื้อ : ต้องใช้รังสี UV แบบไหน ?