น้ำอัดลม น้ำหวานหลากสี หลายรสชาติ มาพร้อมความซ่าเพื่อช่วยเติมความสดชื่นในวันที่อากาศร้อนหรือหลังทำกิจกรรมหนัก ๆ แต่นอกจากความสดชื่นที่อัดมาเต็มกระป๋องแล้ว เครื่องดื่มประเภทนี้ยังถือเป็นภัยเงียบทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ หากดื่มในปริมาณที่มากเกินพอดี อีกทั้งข้อเสียของน้ำอัดลมที่ซ่อนอยู่ในบรรจุภัณฑ์สีสวยยังอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพและเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิดในระยะยาว
เจาะลึกความหมาย แบบไหนเรียกว่าน้ำอัดลม ?
น้ำอัดลม คือเครื่องดื่มที่ผ่านกระบวนการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ทำให้เกิดฟองซ่าและความสดชื่นที่เป็นเอกลักษณ์ แต่นอกจากความซ่าแล้ว น้ำอัดลมยังมีรสชาติ กลิ่น และสีสันหลากหลายแบบ จากส่วนผสมที่ผู้ผลิตออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้บริโภค โดยส่วนประกอบหลัก ได้แก่
- น้ำ
- ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ทำให้น้ำเกิดฟองและความซ่า เพื่อให้รู้สึกสดชื่นทันทีที่ดื่ม
- สารให้ความหวาน มี 2 ประเภทย่อย ได้แก่
- น้ำตาล เช่น ซูโครส ฟรุกโตส สำหรับน้ำอัดลมทั่วไป
- สารให้ความหวานสังเคราะห์ เช่น แอสปาร์แตม ซูคราโลส สเตเวีย สำหรับน้ำอัดลมแบบไร้น้ำตาล
- กรดปรุงรส (Acidulants) ประกอบไปด้วย
- กรดฟอสฟอริก (Phosphoric Acid) เพิ่มรสชาติเปรี้ยวและยืดอายุการเก็บ
- กรดซิตริก (Citric Acid) เพิ่มความเปรี้ยวสดชื่น
- กรดมาลิกหรือกรดทาร์ทาริก ใช้ในน้ำอัดลมรสผลไม้เพื่อปรับสมดุลของรสชาติ
- สารแต่งกลิ่น รส และสี
- กลิ่นธรรมชาติหรือสังเคราะห์ เช่น กลิ่นส้ม กลิ่นโคล่า
- สีสังเคราะห์
- สารแต่งรส (Flavor Enhancer) เพื่อให้รสชาติคงที่
- สารกันบูดและสารเติมแต่งอื่น ๆ เช่น โซเดียมเบนโซเอต โพแทสเซียมซอร์เบต เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
- สารเสริมคุณภาพ เช่น คาเฟอีน วิตามินต่าง ๆ
9 ข้อเสียของน้ำอัดลม ตระหนักทุกครั้งก่อนดื่ม
จากคุณสมบัติด้านความหวานสดชื่นและซาบซ่าของน้ำอัดลม ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้กลายเป็นของโปรดของใครหลายคน ส่งผลให้มีคำถามตามมาว่า แล้วถ้ากินน้ำอัดลมเยอะจะเป็นอันตรายไหม คำตอบคืออันตรายแน่นอน เพราะข้อเสียของน้ำอัดลมมีหลายประการ ดังนี้
1. เป็นสาเหตุสำคัญของโรคอ้วน
ข้อเสียหลักของน้ำอัดลมคือมีน้ำตาลสูง เมื่อดื่มเป็นประจำ ร่างกายจะได้รับพลังงานเกินความจำเป็น เกิดการสะสมเป็นไขมัน ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเสี่ยงเป็นโรคอ้วน
2. เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
น้ำตาลในน้ำอัดลมถูกย่อยและดูดซึมอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นทันทีและสูงต่อเนื่อง หากดื่มบ่อย ระบบอินซูลินจะทำงานหนักจนไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี เกิดภาวะดื้ออินซูลินและพัฒนาเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
3. เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
น้ำตาลและสารให้ความหวานในน้ำอัดลมจะไปเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและไขมันเลว (LDL) ส่งผลให้หลอดเลือดตีบแข็งและอักเสบ นำไปสู่ความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจวายและหลอดเลือดสมอง
4. ทำลายฟันและสุขภาพช่องปาก
อีกหนึ่งข้อเสียของน้ำอัดลมคือเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปาก เพราะกรดในน้ำอัดลมจะเข้าไปทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันบางลงและเกิดฟันผุได้ง่าย รวมทั้งยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเหงือกอักเสบอีกด้วย
5. ส่งผลต่อความหนาแน่นของกระดูก
หลายคนอาจไม่รู้ว่าน้ำอัดลมเป็นอันตรายต่อมวลกระดูก เพราะกรดฟอสฟอริกจะรบกวนการดูดซึมแคลเซียมและแมกนีเซียมในลำไส้ ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในระยะยาว
6. กระทบต่อระบบการทำงานของไต
การดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูงเป็นประจำ จะไปเพิ่มภาระการทำงานของไตให้หนักขึ้น และเชื่อมโยงกับอัตราความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต และโรคไตวายเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว
7. เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำอัดลมทำให้เกิดแก๊สสะสมในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง และกรดในน้ำอัดลมสามารถระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหาร เป็นสาเหตุกรดไหลย้อน และโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
8. ส่งผลให้เกิดภาวะเสพติดน้ำตาลและคาเฟอีน
น้ำอัดลมบางชนิดมีคาเฟอีนและน้ำตาลสูง ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท การดื่มบ่อย ๆ จะทำให้เกิดความอยากบริโภคเพิ่มขึ้น เกิดภาวะติดน้ำตาลและคาเฟอีน ทำให้นอนไม่หลับ วิตกกังวลและส่งผลต่อสุขภาพจิต
9. หากเด็กดื่มในปริมาณมาก อาจมีภาวะเบื่ออาหารได้
เด็กที่ดื่มน้ำอัดลมก่อนมื้ออาหาร มักรู้สึกอิ่มไว ส่งผลให้กินอาหารได้น้อยลง ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำตาลในน้ำอัดลม 325 ซีซี ยังสูงถึง 8.5 ช้อนชา เทียบเท่ากับลูกอม 17 เม็ด ในขณะที่เด็กไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน การดื่มน้ำอัดลมเพียงครั้งเดียวก็ถือว่าปริมาณเกินความต้องการของร่างกาย อาจนำไปสู่ภาวะน้ำตาลเกินและอ้วนง่ายตามมา

ดื่มน้ำอัดลมอย่างไร ไม่กระทบต่อสุขภาพ ?
แม้ว่าน้ำอัดลมจะมีข้อเสียต่อสุขภาพหลายประการ แต่หากดื่มอย่างเหมาะสมและมีสติ น้ำอัดลมสามารถช่วยเพิ่มความสดชื่นได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ตามแนวทางเหล่านี้
1. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมทุกวัน
ควรจำกัดน้ำอัดลมให้เป็นเครื่องดื่มพิเศษสำหรับงานเลี้ยงหรือโอกาสสำคัญเท่านั้น เพื่อป้องกันการได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น และลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ฟันผุ และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
2. เลือกดื่มน้ำอัดลมสูตรลดน้ำตาลหรือสูตรไม่มีน้ำตาล
การเลือกน้ำอัดลมที่ลดน้ำตาลหรือไม่มีน้ำตาล จะช่วยลดปริมาณน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายและช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ง่ายขึ้น แต่ควรดื่มอย่างพอเหมาะ ไม่ควรดื่มมากเกินไป เพื่อป้องกันร่างกายได้รับอันตรายจากน้ำอัดลมในระยะยาว
3. ดื่มพร้อมมื้ออาหาร
การดื่มน้ำอัดลมระหว่างมื้ออาหารช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นช้า ลดโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลสูงอย่างฉับพลัน และยังช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพฟันและระบบย่อยอาหารด้วย
4. ดื่มน้ำเปล่าตามทุกครั้งหลังดื่มน้ำอัดลม
การดื่มน้ำเปล่าหลังดื่มน้ำอัดลมช่วยชะล้างน้ำตาลและกรดที่ตกค้างในช่องปาก ลดความเสี่ยงฟันผุ และช่วยป้องกันอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ดื่มน้ำอัดลมในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพและความสดชื่น แล้วอย่าลืมเติมน้ำสะอาดบริสุทธิ์ให้แก่ร่างกายทุกวัน ด้วยการเลือกใช้เครื่องกรองน้ำ Wells เครื่องกรองน้ำจากประเทศเกาหลีใต้ที่ผสมผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว มาพร้อมนวัตกรรมการกรองน้ำ 9 ชั้น เพื่อให้ได้น้ำดื่มที่สะอาดถึงระดับนาโนเทคโนโลยี ติดตั้งได้แม้มีพื้นที่จำกัด มีให้เลือกถึง 4 รุ่น ตอบรับทุกความต้องการได้สมบูรณ์แบบ ได้แก่ Wells The One, Wells tt UV+, Wells tt และ Wells Mini Water Purifier
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- LINE OA: @wellsthailand หรือ https://bit.ly/36pYHXp
- เบอร์โทรศัพท์: 082-826-4999
- อีเมล: info@wellsthailand.com
ข้อมูลอ้างอิง:
- 13 Ways That Sugary Soda Is Bad for Your Health. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 จาก https://www.healthline.com/nutrition/13-ways-sugary-soda-is-bad-for-you
- กรมอนามัย เตือน น้ำอัดลมดื่มมากทำฟันสึกกร่อน เสี่ยงฟันผุ แนะดื่มน้ำเปล่า 8 แก้วต่อวันดีที่สุด. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 จาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/170664-2/
- เด็ก ❌ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม (ในปริมาณมาก) เพราะเหตุใด?. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 จาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/infographics/info451_soft-drink/