ไขปริศนา น้ำที่ใช้ชงกาแฟส่งผลต่อรสชาติมากแค่ไหน
วันพิเศษของใครหลายคนอาจเริ่มต้นได้ด้วยกาแฟแก้วโปรด อย่างไรก็ดี การชงกาแฟให้อร่อยจนสามารถเปลี่ยนวันธรรมดาให้กลายเป็นวันพิเศษได้ ไม่ได้อยู่ที่ฝีมือ อุปกรณ์ และการเลือกเมล็ดกาแฟที่ตรงกับความต้องการเท่านั้น แต่การควบคุม “คุณภาพน้ำ” ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถกำหนดรสชาติกาแฟได้มากกว่า 96% เลยทีเดียว
หากสงสัยว่าจะควบคุมคุณภาพน้ำได้อย่างไร มีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องกรองน้ำชงกาแฟโดยเฉพาะหรือไม่ ลองมาทำความรู้จักกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมคุณภาพน้ำให้เหมาะสมกับการชงกาแฟที่นำมาฝากในวันนี้กัน
1. รู้จักค่า TDS ของน้ำ
หากใครต้องการชงกาแฟให้ครบรส และสามารถดึงคาแร็กเตอร์ของเมล็ดออกมาได้อย่างชัดเจน สิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดในการควบคุมคุณภาพน้ำ คือ การควบคุมค่า TDS ให้เหมาะสม
ค่า TDS หรือ Total Dissolved Solids เป็นค่าที่สามารถกำหนดทิศทางของรสชาติกาแฟได้ เนื่องจากตัวแปรนี้จะเป็นค่าที่บอกปริมาณสารแขวนลอยในน้ำ ไม่ว่าจะเป็นไอออน รวมไปถึงแร่ธาตุและสารต่าง ๆ ที่อยู่ที่ในน้ำ โดยน้ำจากแหล่งกำเนิดและกรรมวิธีที่แตกต่างกันจะให้ค่า TDS ที่ไม่เหมือนกัน เช่น น้ำจากเครื่องกรองน้ำร้อนและเย็นแบบ RO อาจมีค่า TDS อยู่ที่ 0 – 50 PPM. ในขณะที่น้ำก๊อก น้ำกรองทั่วไป หรือน้ำแร่อาจมีค่า TDS อยู่ราว 100 – 400 PPM. เลยทีเดียว
สำหรับการชงกาแฟเอสเพรสโซ่ น้ำควรจะมีค่า TDS อยู่ที่ 50 – 100 PPM. ในขณะที่การชงกาแฟดริปควรจะมีค่า TDS อยู่ราว ๆ 125 – 175 PPM. ทั้งนี้การกำหนดค่า TDS ยังขึ้นอยู่กับความชอบและโปรไฟล์เมล็ดกาแฟที่ต้องการสกัดด้วย
อย่างไรก็ดี หากเลือกใช้น้ำที่มีค่า TDS สูงเกินไปอาจทำให้ได้กาแฟออกมาไม่ครบรส เนื่องจากเกิดการสกัดที่น้อยเกินไป หรือเรียกว่า Under-extraction ในขณะที่การใช้น้ำที่มีค่า TDS ต่ำเกินไปอาจทำให้กาแฟสกัดออกมามากจนเกินไป หรือเกิดภาวะ Over-extraction จนทำให้มีรสชาติขม เฝื่อน และรู้สึกได้ว่ากาแฟไม่หอมกรุ่นเหมือนอย่างเคย
2. ค่า pH ในน้ำมีผลกับรสชาติกาแฟอย่างไร?
นอกจากสารต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำที่พิจารณาได้จากค่า TDS แล้ว คอกาแฟยังควรควบคุมคุณภาพของน้ำโดยการพิจารณาค่า pH หรือค่าความเป็นกรดเบสของน้ำที่ใช้ชงกาแฟด้วยเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว หากน้ำที่ใช้ชงกาแฟมีสภาพเป็นกรดจะมีค่า pH ต่ำกว่า 7 และจะมีรสชาติเปรี้ยว ในทางตรงกันข้าม หากน้ำที่ใช้ชงกาแฟมีค่า pH สูงกว่า 7 ก็จะมีสภาพเป็นเบสสูงและมีรสเฝื่อนมากขึ้น
สำหรับการชงกาแฟแล้ว คอกาแฟยังควรควบคุมค่า pH ของน้ำให้อยู่ที่ช่วง 4 – 7 ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเมล็ดกาแฟ วิธีการชง รวมถึงเมนูกาแฟที่ต้องการ อย่างไรก็ดี โดยพื้นฐานแล้ว คอกาแฟควรเริ่มต้นจากการกำหนดค่า pH ของน้ำสำหรับชงกาแฟให้อยู่ที่ 7 เนื่องจากความเป็นกรดและเบสของน้ำจะไม่สามารถส่งผลกระทบกับรสชาติของกาแฟที่สกัดได้
3. แร่ธาตุในน้ำทำให้รสชาติกาแฟแตกต่างกันหรือไม่?
แม้ค่า TDS จะบอกให้ทราบถึงปริมาณสารแขวนลอยที่อยู่ในน้ำ แต่จะไม่สามารถระบุประเภท รวมถึงแร่ธาตุของสารที่อยู่ในน้ำได้ ด้วยเหตุนี้ หลาย ๆ ครั้งต่อให้น้ำมีค่า TDS ที่เหมาะสมกับการชงกาแฟก็อาจทำให้ได้รสชาติที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการได้
ดังนั้น เพื่อควบคุมรสชาติและดึงคาแร็กเตอร์ของกาแฟให้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ คอกาแฟทุกคนยังควรตรวจหาสารที่อยู่ในน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุประเภทต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อรสชาติกาแฟ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 3 แร่ธาตุหลัก คือ
- แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่ส่งผลต่อบอดี้ หรือ ความหนักในรสสัมผัสของกาแฟ
- แมกนีเซียม เป็นแร่ธาตุที่ช่วยดึงรสชาติพิเศษของกาแฟออกมา เช่น ดึงคาแร็กเตอร์ผลไม้ ดอกไม้ ช็อกโกแลต หรือรสชาติต่าง ๆ ที่อาจระบุไว้ที่ Taste Note ของกาแฟ
- โซเดียมไนเตรด เป็นแร่ธาตุจำพวกเกลือที่ช่วยให้กาแฟรู้สึกกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น โดยในน้ำที่ใช้ชงกาแฟควรจะมีโซเดียมไนเตรดไม่เกิน 2%
สำหรับใครที่ใช้เครื่องกรองน้ำชงกาแฟโดยเฉพาะ และกลัวว่าน้ำชงกาแฟที่ได้จะไม่มีแร่ธาตุต่าง ๆ เหล่านี้อยู่เลยก็สามารถเลือกใช้ “ผงปรุงน้ำ” ผสมเข้าไปในน้ำก่อนที่จะชงกาแฟเพื่อเพิ่มปริมาณแร่ธาตุที่จำเป็นในน้ำได้เช่นกัน
โดยผงปรุงน้ำในท้องตลาดจะมาพร้อมกับส่วนผสมของแร่ธาตุที่แตกต่างกันไปตามรสสัมผัสที่ต้องการ รวมไปถึงสูตรเฉพาะของผู้ผลิตแต่ละเจ้า ดังนั้น เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ตอบโจทย์มากที่สุด ก่อนที่จะเลือกใช้ผงปรุงน้ำจากแบรนด์ใด อย่าลืมลองหาเวลาไปทดสอบน้ำที่ได้จากการผสมผงปรุงน้ำ รวมไปถึงรสชาติกาแฟที่ได้ด้วย
4. เครื่องกรองน้ำชงกาแฟสำคัญอย่างไร?
การติดตั้งเครื่องกรองน้ำชงกาแฟ ไม่เพียงแต่จะช่วยควบคุมคุณภาพน้ำบางส่วนให้เหมาะสมสำหรับการชงกาแฟ แต่ยังรวมถึงคุณภาพของน้ำที่ได้จะมีความสม่ำเสมอตลอดการใช้งานด้วย นอกจากนี้เครื่องกรองน้ำที่มาพร้อมกับขั้นตอนการกรองที่มีประสิทธิภาพ ยังถือเป็นการทำความสะอาดน้ำให้เหมาะสมกับการบริโภค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคร้ายที่มากับน้ำดื่ม ทำให้คุณและทุกคนในครอบครัวสามารถดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดได้อย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องกรองน้ำชงกาแฟที่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับกาแฟทุกแก้วได้อย่างลงตัว Wells ผู้ผลิตเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูงจากประเทศเกาหลีใต้ มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ การันตีรางวัลการออกแบบ Red Dot Design Award พร้อมช่วยคุณกรองสิ่งสกปรก โลหะหนัก และจุลินทรีย์จากน้ำได้มากถึง 88 ชนิด เพื่อคุณภาพน้ำที่ดีที่สุดสำหรับการบริโภคและการชงกาแฟ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 082-826-4999
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่
LINE OA: @wellsthailand หรือ https://bit.ly/36pYHXp
อีเมล: info@wellsthailand.com
บทความล่าสุด
- วิธีป้องกันไมโครพลาสติกในน้ำ ดูแลร่างกายให้ปลอดภัยยั่งยืน
- ขณะออกกำลังกายควรดื่มน้ำอย่างไร ? สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มเทรน
- วิธีดื่มน้ำลดน้ำหนักให้ได้ผล พร้อมเคล็ดลับที่ต้องรู้ !
- เครื่องชงกาแฟสดแคปซูล เลือกอย่างไร ตอบโจทย์โฮมคาเฟ่
- 5 เหตุผลที่ควรมีเครื่องชงกาแฟที่บ้าน ใช้แล้วชีวิตดีขึ้นชัวร์
- วิธีเลือกซื้อกรองน้ำสำคัญแค่ไหน เพื่อได้น้ำดื่มที่มีคุณภาพ