กาแฟแคปซูล ดื่มอย่างไรให้ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม ?

กาแฟร้อนที่ได้จากเครื่องทำกาแฟแคปซูล

Table of Content:

กาแฟแคปซูล หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของคนดื่มกาแฟยุคดิจิทัล เพราะนอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังมีให้เลือกดื่มในหลากหลายรสชาติจากหลายแบรนด์กาแฟชั้นนำ แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าอย่างเห็นได้ชัด ทว่า ยังเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างหลายฝ่ายว่า แท้จริงแล้ว การดื่มกาแฟแคปซูล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนหรือไม่ มาค้นหาข้อเท็จจริงของกาแฟสำเร็จรูปประเภทนี้กันว่า มีความเกี่ยวข้องกับโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง

กาแฟร้อนที่ได้จากเครื่องทำกาแฟแคปซูล

หลักการทำงานของกาแฟแคปซูล

กาแฟแคปซูล คือกาแฟสำเร็จรูปประเภทหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การดื่มกาแฟที่สะดวกรวดเร็ว โดยภายในแคปซูลจะบรรจุเมล็ดกาแฟคั่วบดที่ผ่านการบดละเอียดในระดับที่เหมาะสม และควบคุมปริมาณอย่างแม่นยำสำหรับการชงในหนึ่งแก้ว เพื่อให้ได้รสชาติ กลิ่น และความเข้มข้นที่สม่ำเสมอทุกครั้งที่ชง และต้องชงผ่านเครื่องที่ออกแบบมาสำหรับการชงกาแฟแคปซูลโดยเฉพาะเท่านั้นด้วย 

แคปซูลที่ใช้บรรจุกาแฟมักทำจากวัสดุที่ทนความร้อน เช่น อะลูมิเนียม พลาสติกคุณภาพสูง หรือวัสดุชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ เพื่อให้สามารถรองรับแรงดันและอุณหภูมิสูงระหว่างการสกัดกาแฟผ่านเครื่องชงได้อย่างปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกายของผู้ดื่ม อีกทั้งยังมีข้อดีอีกมากมาย ได้แก่

  • สะดวก ใช้งานง่าย เพียงใส่แคปซูลลงในเครื่อง กดปุ่ม ก็ได้กาแฟพร้อมดื่มภายในไม่กี่วินาที
  • รสชาติสม่ำเสมอ เพราะปริมาณและการบดกาแฟถูกควบคุมจากโรงงานผลิต
  • มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งรสชาติ ระดับความเข้มข้น หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น ช็อกโกแลตหรือชา
  • ไม่เลอะเทอะ ไม่ต้องตวง ไม่ต้องบด ไม่ต้องล้างกากกาแฟเหมือนเครื่องชงทั่วไป

หลักการทำงานของกาแฟแคปซูล

ส่วนหลักการทำงานของกาแฟแคปซูลก็เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน โดยเริ่มจากการนำแคปซูลใส่เข้าไปในเครื่อง จากนั้น ระบบจะทำการเจาะแคปซูล แล้วใช้น้ำร้อนที่มีแรงดันสูงดันผ่านกาแฟคั่วบดภายในแคปซูลอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกระบวนการสกัดรสชาติและน้ำมันกาแฟออกมาในปริมาณที่เหมาะสม ส่งผลให้กาแฟที่ได้มีความหอม เข้มข้น และมีครีมา (Crema) ด้านบน คล้ายกับกาแฟที่ชงจากบาริสต้ามืออาชีพเลยทีเดียว

กาแฟสำเร็จรูปแบบแคปซูลส่งผลอย่างไรต่อสิ่งแวดล้อม ?

แม้ว่ากาแฟแคปซูลจะเคยถูกตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตจำนวนมากได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมามากมาย เพื่อช่วยยกระดับกาแฟแคปซูลให้กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นมิตรต่อโลกมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นสำคัญเหล่านี้

วัสดุบรรจุภัณฑ์และการย่อยสลาย

ปัจจุบันผู้ผลิตกาแฟแคปซูลหลายรายได้หันมาใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% เช่น แคปซูลอะลูมิเนียม ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่ลดคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแคปซูลจากวัสดุชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงช่วยสนับสนุนการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม

คาร์บอนฟุตพรินต์และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กาแฟแคปซูลมีข้อได้เปรียบด้านการควบคุมปริมาณการใช้เมล็ดกาแฟได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยลดของเสียจากการชงกาแฟเกินความจำเป็น นอกจากนี้ กาแฟบางแบรนด์ยังได้รับการรับรองเครื่องหมาย CFR หรือ Carbon Footprint Reduction ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยกระบวนการที่ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

พลังงานที่ใช้ในการชงกาแฟ

เครื่องชงกาแฟแคปซูลถูกออกแบบมาให้อุ่นน้ำและชงกาแฟได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งเป็นข้อดีในแง่ของการประหยัดเวลาและพลังงานต่อการชงกาแฟหนึ่งแก้วเมื่อเทียบกับวิธีแบบดั้งเดิม ที่ต้องใช้เครื่องบดเมล็ดและหม้อต้มกาแฟแยกกัน ทำให้สิ้นเปลืองทั้งแก๊สและไฟฟ้า

กาแฟร้อนที่ได้จากเครื่องทำกาแฟแคปซูล

แนวทางการกำจัดแคปซูลกาแฟอย่างถูกวิธี

เมื่อทั้งวิธีการชงและบรรจุภัณฑ์ของกาแฟแคปซูลล้วนส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สุดท้ายก็มาถึงหน้าที่ของผู้บริโภค อย่างวิธีการกำจัดแคปซูลกาแฟอย่างถูกวิธี โดยสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วย 3 แนวทาง ได้แก่

1. เลือกใช้แคปซูลที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ

สิ่งแรกที่ควรทำหากอยากให้การดื่มกาแฟของคุณช่วยโลกได้ คือการเลือกซื้อกาแฟจากผู้ผลิตที่เลือกใช้แคปซูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสามารถย่อยสลายได้ 100% เพื่อช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกได้เป็นอย่างดี

2. เข้าร่วมโครงการรีไซเคิลของผู้ผลิตกาแฟโดยตรง

ผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟแคปซูลหลายแห่งมีโครงการรับคืนแคปซูลที่ใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิล โดยแยกกากกาแฟออกเพื่อนำไปทำปุ๋ยหรือพลังงานสีเขียว และนำอะลูมิเนียมกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งคุณสามารถส่งแคปซูลคืนได้ตามจุดที่แบรนด์กำหนด

3. การทิ้งแคปซูลกาแฟอย่างถูกวิธีลงถังขยะรีไซเคิล

สำหรับวิธีทิ้งแคปซูลกาแฟอะลูมิเนียมที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างถูกต้อง ทำได้โดยการแยกแคปซูลกาแฟกับกากกาแฟออกจากกัน แล้วล้างแคปซูลให้สะอาดและค่อยทิ้งลงในถังขยะรีไซเคิล เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย 

การเลือกแคปซูลกาแฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การใช้เครื่องทำกาแฟแคปซูลที่มีประสิทธิภาพและรองรับแคปซูลที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ ขอแนะนำ Wells The One Home Café เครื่องชงกาแฟที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย รองรับแคปซูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชงได้ทั้งชาและกาแฟ พร้อมทั้งระบบแรงดันสูงที่ช่วยสกัดรสชาติเครื่องดื่มออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ให้คุณดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรดควบคู่ไปกับการช่วยโลกได้อย่างไร้กังวล

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง:

  • ‘กาแฟแคปซูล’ ไม่ใช่ผู้ร้าย เหตุส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม น้อยกว่าวิธีชงรูปแบบอื่น. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 จาก https://themomentum.co/environment-coffeepod-carbonfootprint/