การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาสมดุลของร่างกาย แต่หากดื่มมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะที่ไตไม่สามารถกรองและขับน้ำส่วนเกินออกได้ทัน ความไม่สมดุลของเกลือแร่ในเลือด หรือแม้แต่ผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
ดังนั้น การรู้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวัน และการเข้าใจถึงความเสี่ยงจากการดื่มน้ำมากเกินไป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียที่อาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต
สถานการณ์อันตราย เสี่ยงต่อการดื่มน้ำมากเกินไป
การดื่มน้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย แต่ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้ว่าไม่ควรกินน้ำเกินวันละกี่ลิตร มาดูกันก่อนว่ามีสถานการณ์ใดบ้างที่อาจทำให้เราเผลอดื่มน้ำมากเกินไปโดยไม่รู้ตัวบ้าง
- หลังจากทำกิจกรรมที่เสียเหงื่อมาก เช่น การออกกำลังกายหรือการวิ่งมาราธอน หลายคนมักพยายามดื่มน้ำในปริมาณมากเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ แต่กลับละเลยการเติมเกลือแร่ที่ขาดไปพร้อมกับเหงื่อ ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างน้ำและโซเดียมในร่างกาย
- อยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้น เมื่อร่างกายสูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติจะทำให้กระหายน้ำได้ง่าย และอาจทำให้เราเผลอดื่มน้ำต่อเนื่องโดยไม่พัก จนไตทำงานหนักเกินไปได้
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ยาบางประเภท เช่น ยาขับปัสสาวะหรือยาที่มีผลต่อสมอง อาจกระตุ้นให้รู้สึกกระหายน้ำมากผิดปกติ หากไม่ระมัดระวัง ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำเกินความจำเป็น
- ภาวะทางจิตใจและพฤติกรรมบังคับ ผู้ที่มีภาวะวิตกกังวล หรือผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) รวมถึงโรคจิตเภทบางชนิด มักมีพฤติกรรมบังคับให้ดื่มน้ำมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้
6 สัญญาณเตือน ร่างกายได้รับน้ำมากเกินพิกัด
หลังจากรู้สถานการณ์ที่อาจทำให้เราเผลอดื่มน้ำมากเกินไป สิ่งสำคัญต่อมาคือการสังเกตสัญญาณเตือนของร่างกายเมื่อได้รับน้ำเกินความจำเป็น ซึ่งสัญญาณหลัก ๆ ที่มักพบมีดังต่อไปนี้
- ปัสสาวะบ่อยและมากผิดปกติ หากต้องเข้าห้องน้ำบ่อยจนรบกวนชีวิตประจำวัน แสดงว่าร่างกายกำลังพยายามขับน้ำส่วนเกินออก
- บวมตามมือ เท้า หรือใบหน้า เมื่อมีน้ำสะสมในเนื้อเยื่อมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งมักสังเกตเห็นได้ที่ปลายมือ ปลายเท้า และใบหน้า
- ปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะ เมื่อร่างกายมีน้ำมากเกินไป จะทำให้เกลือแร่ในร่างกายเจือจาง ส่งผลให้สมองทำงานผิดปกติจนเกิดอาการปวดหรือเวียนศีรษะบ่อยครั้ง
- คลื่นไส้หรืออาเจียน การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้ระบบย่อยอาหารและความสมดุลในร่างกายแปรปรวน จนเกิดอาการคลื่นไส้โดยไม่ทราบสาเหตุ
- สับสนหรือมึนงง ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) อาจเกิดขึ้นเมื่อดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้สมองบวม ส่งผลให้ความคิดและการรับรู้ผิดปกติ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือกระตุก เมื่อร่างกายเสียสมดุลของเกลือแร่จากการดื่มน้ำมากเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติจนเกิดอาการเกร็งหรือกระตุก
อันตรายจากการดื่มน้ำมากเกินไป หากมองข้าม อาจส่งผลต่อชีวิต
การดื่มน้ำเกินความจำเป็น ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบาย แต่ยังสามารถนำไปสู่ภาวะร้ายแรงที่กระทบต่อสุขภาพและชีวิตได้อีกด้วย เช่น
- ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) เมื่อร่างกายมีน้ำมากเกินไปจนทำให้โซเดียมในเลือดเจือจาง และอาจทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ จนเกิดอาการชักหรือหมดสติ
- อาการบวมน้ำ (Edema) น้ำที่สะสมในเนื้อเยื่อมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายบวม และหากบวมในอวัยวะสำคัญ เช่น สมองหรือปอด สามารถทำให้เกิดอันตรายรุนแรงต่อร่างกายได้
- ไตทำงานหนัก ไตต้องกรองและขับน้ำส่วนเกินออก หากดื่มน้ำมากเกินไปเป็นเวลานาน อาจทำให้ไตเสื่อมและเกิดภาวะไตเรื้อรังได้
- ความดันโลหิตสูงผิดปกติ ปริมาณน้ำส่วนเกินในหลอดเลือดจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- หัวใจทำงานหนักขึ้น เพราะต้องสูบฉีดเลือดที่มีน้ำเกินไป ส่งผลให้หัวใจอ่อนล้าและอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว
- ภาวะน้ำเกินในสมอง หากมีน้ำมากเกินไปในสมอง จะเพิ่มความดันในกะโหลกศีรษะ และหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ตอบข้อสงสัย เราไม่ควรดื่มน้ำเกินวันละกี่ลิตร ?
อ่านมาถึงตรงนี้ สำหรับใครที่เริ่มเห็นถึงผลกระทบจากการดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไปและสงสัยว่าไม่ควรดื่มน้ำเกินวันละกี่ลิตร คำตอบก็คือ “ไม่มีตัวเลขตายตัว” เพราะปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักตัว กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน สภาพอากาศ และภาวะสุขภาพ
โดยทั่วไปสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ คือ
น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 ÷ 2 = มิลลิลิตรต่อวัน
ตัวอย่างเช่น หากมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม คำนวณได้ว่า
60 x 2.2 x 30 ÷ 2 = 1,980 มิลลิลิตร
คือควรดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำถึง 3 ลิตร เว้นแต่ว่ามีการออกกำลังกายหนักหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อนจัดที่ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ

นอกจากการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับคุณภาพและความบริสุทธิ์ของน้ำที่คุณดื่มด้วย
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัย ขอแนะนำ Wells The One เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะจากเกาหลีใต้ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีหัวจ่ายน้ำล้ำสมัย ให้คุณเลือกดื่มน้ำสะอาดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเย็นสดชื่น, น้ำร้อน 3 ระดับ, น้ำอุณหภูมิปกติ หรือแม้กระทั่งน้ำอุณหภูมิร่างกาย ด้วยระบบกรองน้ำระดับนาโนถึง 9 ขั้นตอน คุณจึงมั่นใจได้ว่าน้ำทุกหยดจะปราศจากแบคทีเรีย จุลินทรีย์ และสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- LINE OA: @wellsthailand หรือ https://bit.ly/36pYHXp
- เบอร์โทรศัพท์: 082-826-4999
- อีเมล: info@wellsthailand.com
ข้อมูลอ้างอิง
- จริง ๆ แล้ว เราควรดื่มน้ำวันเท่าไหร่จึงจะมีประโยชน์ ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 จาก https://ch9airport.com/th/จริง-ๆ-แล้ว-เราควรดื่มน้/.\
- ดื่มน้ำมากไปไม่ดี! เกิน6-7ลิตร/วัน เสี่ยง’ไฮโปแนทรีเมีย’เกิดเซลล์บวมน้ำ. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 จาก https://www.hfocus.org/content/2013/10/5065.
- ดื่มน้ำมากเกินไป. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 จาก https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Over-Drink-Water-Negative-Effects-to-Health.





