ไขปริศนาน้ำประปาดื่มได้จริงไหม ปลอดภัยจริงหรือเปล่า
เพราะร่างกายของเราทุกคนมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่า 70% ด้วยเหตุนี้ การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การซื้อน้ำดื่มมาบริโภคก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากในแต่ละเดือน จนทำให้ใครหลายคนเริ่มหาวิธีนำน้ำประปามาบริโภคได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ดี แม้น้ำประปาในโลกตะวันตกจะสามารถดื่มและบริโภคได้จากก๊อกโดยตรง แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว น้ำประปาที่ต่อตรงเข้ามาภายในบ้านอาจมาพร้อมกับเชื้อโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มาทำความเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับระบบน้ำประปาในไทย พร้อมรู้จักวิธีการดื่มน้ำประปาที่ปลอดภัยต่อสุขภาพกัน
น้ำประปามาจากไหน?
‘น้ำประปาดื่มได้จริงไหม’ เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยอยู่ไม่น้อย แค่การจะตอบคำถามนี้ได้จำเป็นจะต้องเข้าใจที่มาของน้ำประปากันก่อน โดยสำหรับในประเทศไทยแล้ว น้ำประปาที่ใช้ในครัวเรือนในปัจจุบันนี้จะมีที่มาจากแหล่งต้นน้ำ 2 แห่ง ประกอบไปด้วย
- แหล่งน้ำลึกใต้ดิน หรือ น้ำบาดาล เป็นแหล่งน้ำจืดตามธรรมชาติที่มีความสะอาดสูง เนื่องจากผ่านการกรองจากชั้นหินตามธรรมชาติมาแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นน้ำธรรมชาติที่แทรกตัวอยู่ในชั้นหิน น้ำบาดาลส่วนใหญ่จึงมีสนิมและโลหะหนักปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก
- แหล่งน้ำดิบผิวดิน เช่น แหล่งน้ำตามธรรมชาติอย่างแม่น้ำ น้ำตก ลำคลอง ตลอดจนหนอง และบึงที่พบเห็นได้ทั่วไป นอกจากนี้ น้ำที่กักเก็บอยู่ในเขื่อน อ่างเก็บน้ำ หรือฝายที่มนุษย์สร้างขึ้นก็จัดเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำดิบผิวดินที่สามารถนำมาผลิตเป็นน้ำประปาได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว น้ำดิบผิวดินจะมีการปนเปื้อนที่สูงมาก ทั้งจากการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้ำและตะกอนดินจากฝน
ขั้นตอนการผลิตน้ำประปา
หลังจากที่สูบน้ำดิบจากแหล่งน้ำมาเรียบร้อย การประปาจะนำน้ำดิบมาปรับปรุงคุณภาพน้ำขั้นแรกด้วยการเติมสารส้มและปูนขาวลงไป จากนั้นจึงส่งน้ำที่ผ่านการผสมสารส้มและปูนขาวไปยังถังตกตะกอนเพื่อรอให้สิ่งสกปรก จุลินทรีย์ และเชื้อโรคต่าง ๆ ตกตะกอนจนทำให้น้ำใสขึ้น ตลอดจนช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำให้มีกรดเบสที่สมดุล
หลังจากนั้น การประปาจะส่งน้ำดิบที่ตกตะกอนจนใสสะอาดแล้วมายังถังกรองต่อ ซึ่งภายในถังกรองจะประกอบไปด้วยกรวดกรองและทรายกรองที่ละเอียดมาก ทำให้สามารถกรองสิ่งสกปรกและตะกอนออกไปได้ทั้งหมด จนเหลือแต่น้ำที่ใสสะอาดอย่างแท้จริง
สุดท้าย การประปาจะนำน้ำที่กรองผ่านถังกรองมาเติมสารคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคและจุลินทรีย์ตามหลักมาตรฐานสากล และหลังจากเติมคลอรีนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการบริโภคน้ำประปาเป็นที่เรียบร้อย การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จะเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพน้ำก่อนส่งน้ำสะอาดเข้าสู่ครัวเรือนในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไป
อันตรายจากน้ำประปา
แม้จากขั้นตอนการผลิตน้ำประปาข้างต้นจะทำให้ใครหลายคนเข้าใจว่า น้ำประปาดื่มได้อย่างปลอดภัย แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำประปาที่ใสสะอาดก็ยังมาพร้อมกับอันตรายมากมายทั้งจากเชื้อโรค สิ่งสกปรกและจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในท่อส่งน้ำ
นอกจากนี้ อุปกรณ์ส่งผ่านน้ำประปาตามครัวเรือนยังทำมาจากหลายวัสดุ ซึ่งวัสดุบางประเภทอาจเกิดการกัดกร่อนของสารเคลือบหลังจากการใช้งานในระยะยาว ตลอดจนมีการเสียดสีกันที่บริเวณวาล์วน้ำจนเกิดเป็นเศษวัสดุและคราบสนิมเจือปนในน้ำ
ที่สำคัญ อุปกรณ์ส่งน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ มีการใช้งานมาอย่างยาวนานยังเสี่ยงต่อการเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากมาย ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพหากดื่มและบริโภคน้ำประปาจากก๊อกโดยตรง
เคลียร์ชัด! สาร THMs ในน้ำประปาอันตรายจริงไหม? เมื่อสงสัยว่าน้ำประปาดื่มได้จริงไหม คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงสารไตรฮาโลมีเทน (Trihalomethanes : THMs) ที่เชื่อว่าเป็นสารก่อมะเร็งในน้ำประปา โดย ‘สารไตรฮาโลมีเทน’ เกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาระหว่างสารอินทรีย์ในน้ำดิบและสารคลอรีน ซึ่งตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก น้ำประปาสามารถมีคลอรีนอิสระคงเหลือไว้ได้ไม่ต่ำกว่า 0.2 มิลลิกรัมและสูงสุดไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัม จึงถือว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่สำหรับมาตรฐานน้ำประปาที่ดื่มได้แล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการกำหนดให้มี ‘สารไตรฮาโลมีเทน’ ไม่เกิน 80 ไมโครกรัมต่อลิตร ส่วนประเทศญี่ปุ่นกำหนดให้มี ‘สารไตรฮาโลมีเทน’ รวมกันไม่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลิตร |
หากต้องการดื่มน้ำประปาควรทำอย่างไร?
จะเห็นได้ว่า อันตรายจากน้ำประปาสามารถเกิดขึ้นได้จากระบบการลำเลียงน้ำเข้าสู่ครัวเรือน ซึ่งสำหรับบ้านไหนที่ต้องการดื่มและบริโภคน้ำประปาเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน นอกจากจะต้องติดตามข่าวสารและรายงานระดับสารไตรฮาโลมีเทนเป็นประจำแล้ว การดื่มน้ำประปาให้ปลอดภัยยังสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงรู้จักวิธีกรองน้ำที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี การกรองน้ำที่ถูกต้องจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก ทั้งยังต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะหากมีประสบการณ์ไม่เพียงพอก็อาจทำให้กรองน้ำได้ไม่สะอาด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้เครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพจึงสามารถช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด ทั้งยังช่วยให้ทุกครอบครัวมีน้ำสะอาดไว้ใช้ดื่มกินอย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลถึงสิ่งตกค้างที่มากับน้ำประปา
ดื่มน้ำประปาได้อย่างปลอดภัย เลือกใช้เครื่องกรองน้ำ Wells
เครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพและช่วยกรองน้ำให้สะอาดพร้อมดื่ม ควรมีระบบการกรองที่ละเอียด สามารถกรองสิ่งปนเปื้อน โลหะหนัก และจุลินทรีย์ที่มากับน้ำได้ย่างมีประสิทธิภาพ หรือถ้าจะให้ดี ควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีระบบฆ่าเชื้อโรคภายในตัว เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับการดื่มและบริโภคน้ำภายในครอบครัว
Wells มาพร้อมกับเครื่องกรองน้ำ UV นวัตกรรมการกรอง 9 ชั้นจากประเทศเกาหลีใต้ ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องน้ำดื่มได้อย่างปลอดภัยด้วยระบบการฆ่าเชื้อรังสีอัลตราไวโอเล็ต กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้ 88 ชนิด และฆ่าเชื้อโรคได้มากถึง 99.9% อีกทั้งยังรองรับการใช้งานที่สะดวกมากขึ้นด้วยฟังก์ชันไร้ถังพักน้ำ ติดตั้งง่าย เปลี่ยนอะไหล่และทำความสะอาดได้สะดวก เพิ่มความมั่นใจให้กับการดื่มใช้น้ำประปากับเครื่องกรองน้ำ UV จาก Wells วันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 082-826-4999
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่
LINE OA: @wellsthailand หรือ https://bit.ly/36pYHXp
อีเมล: info@wellsthailand.com
บทความล่าสุด
- เครื่องกรองน้ำใช้ได้กี่ปี ? มีสัญญาณนี้ ถึงเวลาต้องเปลี่ยน !
- น้ำจากเครื่องกรองน้ำรสชาติแปลก ๆ เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง ?
- 3 วิธีแก้ปัญหาดื่มน้ำน้อย ทำอย่างไรให้ดื่มน้ำเพียงพอต่อวัน ?
- เครื่องกรองน้ำดื่ม vs เครื่องกรองน้ำใช้: การใช้งานที่แตกต่าง
- เครื่องกรองน้ำต้องเสียบปลั๊กตลอดไหม มีตัวเลือกไหนอีกบ้าง ?
- แจก How To เลือกเครื่องฟอกอากาศในครัวให้ตอบโจทย์การใช้งาน