How to การดูแลเครื่องฟอกอากาศให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยสำคัญในการกรองอากาศ กำจัดไรฝุ่น และช่วยทำให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศให้คงความพรีเมี่ยมและมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในบ้าน รวมถึงยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นด้วย
ขอชวนมารู้ถึงวิธีดูแลเครื่องฟอกอากาศ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อช่วยดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศที่บ้านให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอในบทความนี้
1. อย่าปิดกั้นการไหลเวียนของเครื่องฟอกอากาศ
โดยส่วนมาก เครื่องฟอกอากาศจะทำงานโดยการดึงอากาศจากด้านล่างของเครื่อง และนำไปฟอกอากาศก่อนจะปล่อยออกมาทางด้านบน หรือเครื่องบางรุ่นอาจดึงอากาศจากด้านบนเมื่อฟอกอากาศเสร็จจะปล่อยออกมาตรงกลางเครื่อง ดังนั้นตำแหน่งในการวางเครื่องจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะฉะนั้นอย่างลืมศึกษาให้ดีว่า เครื่องฟองอากาศของคุณมีการเข้าออกของอากาศที่บริเวณใด ที่สำคัญควรวางเครื่องฟอกอากาศไว้ในที่โล่งและไม่มีสิ่งของวางรอบ ๆ เพื่อไม่เป็นการขัดขวางการทำงานของเครื่องจนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะสุดท้ายแล้วอาจส่งผลต่อการดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศในระยะยาวได้
2. อย่าวางสิ่งของทับเครื่องฟอกอากาศ
นอกจากการเลือกวางเครื่องฟอกอากาศในบริเวณที่ไม่มีสิ่งกีดขวางการทำงานแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือไม่ควรนำสิ่งของมาวางด้านบนตัวเครื่อง เพราะอาจบดบังอากาศ และอาจไปโดนปุ่มต่าง ๆ จนทำให้การตั้งค่าของเครื่องเปลี่ยนแปลงไปได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรนั่งทับหรือพิงเครื่องฟอกอากาศ เพราะอาจไปกีดขวางการทำงานของเครื่องอีกด้วย
3. อย่าใช้งานเครื่องฟอกอากาศนอกอาคาร รวมถึงบริเวณที่มีความชื้นสูง
เนื่องจากหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ คือการดึงอากาศมาฟอกภายในตัวเครื่อง แล้วปล่อยอากาศออกมาหมุนเวียนอยู่ภายในห้อง การนำเครื่องฟอกอากาศไปใช้ด้านนอกอาคารที่มีอากาศปนเปื้อนจากมลภาวะจำนวนมาก จะทำให้เครื่องฟอกอากาศต้องทำงานหนัก เพราะต้องฟอกอากาศอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เครื่องอาจเสื่อมอายุได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ควรใช้งานเครื่องฟอกอากาศในที่แห้ง เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้น โดยควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หรือ ใต้เครื่องปรับอากาศ
4. ควรปิดเครื่องฟอกอากาศให้เรียบร้อยก่อนถอดปลั๊ก
การถอดปลั๊กทันทีเมื่อหยุดใช้เครื่องฟอกอากาศในขณะที่เครื่องยังทำงานอยู่ อาจมีผลกับระบบ หรือ โปรแกรมในเครื่องที่ยังทำงานค้างไว้ ทำให้มีโอกาสที่ไฟจะกระชากเข้าตัวเครื่อง จนส่งผลต่ออายุการใช้งานในระยะยาว
5. เปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ
หมั่นตรวจสอบว่าไส้กรองอากาศเหลือเปอร์เซ็นการใช้งานอยู่ที่เท่าไร ซึ่งโดยปกติแล้วควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำทุก 3 – 6 เดือน แต่ถ้าต้องการให้เครื่องกรองอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด ก็สามารถเปลี่ยนไส้กรองอากาศได้เมื่อรู้สึกว่าเครื่องกรองอากาศมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ซึ่งเมื่อเปอร์เซ็นการใช้งานเหลืออยู่ที่ 50% เครื่องกรองอากาศอาจต้องใช้เวลาในการกรองนานมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า การคอยเปลี่ยนไส้กรองอากาศยังจะช่วยให้เครื่องไม่ต้องทำงานหนักมากจนเกินไปด้วย
6. ทำความสะอาดแผ่นกรอง และแผ่นคาร์บอนอย่างสม่ำเสมอ
การล้าง หรือ เปลี่ยนแผ่นกรองอยู่เสมอเป็นหนึ่งในวิธีทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศที่จำเป็นและสำคัญมาก เพราะจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศให้ดีอยู่ตลอดเวลา โดยที่เครื่องไม่ต้องทำงานหนักมากจนเกินไป ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าต่ำ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน และช่วยประหยัดได้อีกด้วย สำหรับข้อควรรู้ในการล้างแผ่นกรองอากาศก็คือ ควรทำความสะอาดเดือนละครั้ง หรือในช่วงที่มีฝุ่นมากก็สามารถล้างได้สัปดาห์ละครั้ง
7. คอยสังเกตถึงการทำงานที่ผิดปกติของเครื่องฟอกอากาศ
หลายครั้งที่เรามักมองข้ามเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งสัญญาณเตือนภัยถึงความผิดปกติ แต่เรายังคงดึงดันที่จะใช้ต่อไป จนเครื่องฟอกอากาศเกิดปัญหาในที่สุด แต่ถ้าหากต้องการดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น มีเสียงประหลาด ส่งกลิ่นเหม็น หรือ เครื่องร้อนจัด ควรทำการตรวจเช็คทันที
หากกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ พรีเมี่ยมคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และสามารถช่วยยกระดับการใช้ชีวิตให้ดีกว่าที่เคย เครื่องฟอกอากาศจาก Wells มีคุณสมบัติการทำงานที่ครบทุกฟังก์ชัน ทั้งระบบเสียงเงียบ และประหยัดพลังงาน ไม่รบกวนการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถกรองอากาศให้สะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟอีกด้วย!